
สมุทรสงคราม จังหวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นและอาหารทะเลสดใหม่ ราชบุรี ที่โดดเด่นด้วยธรรมชาติสวยงามและศิลปะร่วมสมัย ทริปนี้จะพาคุณสัมผัสทั้งสองจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกันแต่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ไปพักผ่อนหย่อนใจพร้อมทั้งสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในบรรยากาศที่สดชื่นและน่าจดจำ
เส้นทางแนะนำ
วันแรก: สมุทรสงคราม
ชุมชนบ้านบางพลับ

“ชุมชนบ้านบางพลับ” เสน่ห์วิถีชีวิตเกษตรริมคลอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนที่ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและธรรมชาติได้อย่างลงตัว ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวสวนริมคลอง ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ปลูกผลไม้แบบอินทรีย์ และมีภูมิปัญญาท้องถิ่นน่าสนใจ ร่วมเพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บผลไม้ ลองทำขนมไทย หรือเรียนรู้การทำมะพร้าวน้ำหอม เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสความเรียบง่ายและอบอุ่นในบรรยากาศบ้าน ๆ ที่แท้จริง
ร้าน “ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง คาเฟ่”

“ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง คาเฟ่” คาเฟ่บรรยากาศสุดชิลติดริมบ่อเกลือ กับวิวธรรมชาติที่สวยเกินต้าน ไม่ว่าจะมานั่งจิบกาแฟหอมกรุ่น รับประทานของหวาน หรือเพลิดเพลินกับอาหารจานเด็ด ที่นี่ก็มีครบจบในที่เดียว แถมยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เพียบ เหมาะสำหรับสายคาเฟ่ ผู้ที่รักความสงบ ทั้งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มสุดอร่อยและธรรมชาติแบบเต็ม ๆ
วัดบางกุ้ง

“วัดบางกุ้ง” โบสถ์ปรกโพธิ์สุดอันซีน แวะชมโบสถ์ศิลปะเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ถูกปกคลุมทั้งหลังด้วยรากต้นโพธิ์และต้นไทรคล้ายกับถูกธรรมชาติโอบอุ้ม หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและศิลปะของไทย ภายในโบสถ์ประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณีหรือหลวงพ่อนิลมณีศักดิ์สิทธิ์ ที่ผู้คนนิยมปิดทององค์พระ เพื่อขอพรเรื่องสุขภาพและโชคลาภ ใครผ่านมาที่สมุทรสงครามอย่าลืมไปสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ตลาดน้ำอัมพวา

ปิดท้ายวันด้วยการเดินเล่นใน “ตลาดน้ำอัมพวา” หนึ่งในตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย โดยจุดเด่นของตลาดนี้คือบรรยากาศแบบย้อนยุคและการเป็นตลาดน้ำยามเย็นที่มีของฝากหลากหลาย ทั้งอาหารไทย และอาหารทะเลสด ๆ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตริมคลองในบรรยากาศสุดคลาสสิก หากแวะมาตลาดน้ำแห่งนี้แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลย คือ การล่องเรือชมหิ่งห้อย ในช่วงเย็นถึงค่ำ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือล่องไปตามลำน้ำแม่กลองเพื่อชมแสงหิ่งห้อย สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกและวิถีชุมชนดั้งเดิมอย่างแท้จริง
วันที่สอง: ราชบุรี
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

“ตลาดน้ำดำเนินสะดวก” ตลาดน้ำเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตชาวไทยริมสายน้ำ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยบรรยากาศสุดคลาสสิกที่ยังคงความเป็นตลาดน้ำดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่นี่เต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล อาหารไทย ขนมไทยโบราณ และของฝากจากท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อและลิ้มลองกันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ ยังมีบริการล่องเรือพาชมทิวทัศน์อันร่มรื่นตลอดสองฝั่งคลอง นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับสวนผลไม้ บ้านเรือนไทยที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงใช้คลองเป็นเส้นทางสัญจรหลักซึ่งเป็นภาพที่หาได้ยากในปัจจุบัน หากต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมไทยและเสน่ห์แห่งความเรียบง่ายของชุมชนริมน้ำ ห้ามพลาดตลาดน้ำแห่งนี้
เถ้าฮงไถ่ สตูดิโอ

โรงงานเซรามิกเก่าแก่ของราชบุรีที่ถูกพลิกโฉมให้กลายเป็นแหล่งรวมงานศิลปะเซรามิกสุดสร้างสรรค์ ที่ผสมผสานระหว่างเทคนิคงานปั้นดั้งเดิมกับดีไซน์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ที่นี่จึงเป็นทั้งสตูดิโอแสดงงาน ร้านจำหน่ายเซรามิก และจุดเช็กอินยอดฮิตของสายอาร์ต “เถ้าฮงไถ่ สตูดิโอ” โรงงานแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่า 80 ปี จนกระทั่งได้ปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ โดยนำดีไซน์ร่วมสมัยเข้ามาผสมผสานกับเทคนิคการปั้นแบบดั้งเดิม ทำให้เซรามิกของเถ้าฮงไถ่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และกลายเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ นออกจากนี้ยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มและขนม ให้ได้นั่งปล่อยใจไปกับงานศิลปะ
ร้าน “CORO FIELD“

“CORO FIELD” ฟาร์มเมล่อนและคาเฟ่สุดเก๋ในสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ที่ให้คุณสัมผัสวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ในสไตล์ญี่ปุ่น เดินชมฟาร์มเมลอนและสวนสมุนไพรที่ได้รับการใส่ใจดูแลในทุกขั้นตอนการเพาะปลูก ลิ้มลองเมล่อนสด ๆ สายพันธุ์จากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น พร้อมอาหารเพื่อสุขภาพที่คัดสรรวัตถุดิบออร์แกนิกคุณภาพดี และปรุงด้วยความใส่ใจจากเชฟในทุกกระบวนการ รวมถึงเครื่องดื่มและขนมสุดสร้างสรรค์ มาราชบุรีอย่าลืมแวะเติมพลังกายและพลังใจท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสุดชิล หรือจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยปังไปหมด
อุทยานหินเขางู

“อุทยานหินเขางู” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดราชบุรี อุทยานที่โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน ทะเลสาบสีเขียวมรกต และสะพานชมวิวสุดอลังการ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ถ่ายภาพสวยๆ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์จากโบราณสถานที่อยู่ภายในอุทยาน นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว อุทยานหินเขางูยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพราะเป็นแหล่งที่ค้นพบ โบราณสถานและศิลปกรรมเก่าแก่ตั้งแต่สมัยทวารวดี ภายในมีถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาหินและจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่ทรงคุณค่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ พร้อมกับซึมซับบรรยากาศอันสงบของธรรมชาติไปพร้อมกัน
วันที่สาม: ราชบุรี
วัดขนอนหนังใหญ่

“วัดขนอนหนังใหญ่” เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะการแสดงหนังใหญ่ ซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่ยังคงรักษาและเชิดหนังใหญ่ไว้อย่างครบถ้วน และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เกี่ยวกับหนังใหญ่ที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศ ภายในวัดขนอนมีพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ ที่จัดแสดงตัวหนังแกะสลักอายุกว่า 100 ปี มีลวดลายงดงามเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำหนังใหญ่ตั้งแต่การแกะสลักหนังวัว การลงสี และการเชิดหนังประกอบดนตรีไทย นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศของศิลปะไทยโบราณที่หาชมได้ยาก
ร้าน “เรื่องของโอ่ง”

“เรื่องของโอ่ง” เป็นคาเฟ่สุดชิคในจังหวัดราชบุรี ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านกาแฟธรรมดา แต่ยังผสมผสาน ศิลปะงานปั้นโอ่งมังกรอันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเข้ากับบรรยากาศคาเฟ่ที่เหมาะกับยุคสมัย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับ กาแฟหอมกรุ่น เมนูขนมโฮมเมด และกิจกรรมเวิร์กช็อปปั้นโอ่งในบรรยากาศที่ตกแต่งด้วยโอ่งหลากหลายขนาด นอกจากนี้ ร้านยังออกแบบให้มีมุมถ่ายรูปสุดครีเอทีฟ โดยมีโอ่งขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าไปถ่ายรูปข้างในได้ และการตกแต่งสไตล์โรงปั้นแบบดั้งเดิมที่ให้ฟีลอบอุ่นและน่าสนใจ
ทริป 3 วัน 2 คืนนี้จะพาคุณสัมผัสความหลากหลายของธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหารอร่อยในสองจังหวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมประสบการณ์น่าประทับใจที่ทุกคนไม่ควรพลาด