10 ที่เที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา สัมผัสมุมชิลล์ๆ ของกรุงเทพในมุมที่คุณอาจไม่เคยเห็น

 

กรุงเทพ เมืองที่ผูกพันกับแม่น้ำเจ้าพระยาสายน้ำที่ไหลผ่านใจกลางเมืองอย่างเหนียวแน่น เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างยาวนาน ถึงแม้ทุกวันนี้เราจะไม่ได้สัญจรทางน้ำกันเป็นหลักแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเดินทางทางเรือนี่ช่วยประหยัดเวลา และช่วยหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้ดีจริงๆนะ

ทริปนี้ เราขออาสาพาเพื่อนๆ ไปนั่งเรือท่องเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดสั้นๆ กับ วันนี้จะพาไปเช็คอินท่องเที่ยวกับ 10 ที่เที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสัมผัสมุมชิลล์ๆของกรุงเทพในมุมที่คุณอาจไม่เคยเห็นที่นอกจากได้ไปเที่ยวแล้วยังได้รูปสวยๆกลับมาอวดเพื่อนๆอีกด้วย

ทริปนี้จัดเต็ม มีทั้งวัดวาอารามศักดิ์สิทธิ์ สตรีทอาร์ตสวยๆ ปิดท้ายทริปนี้ที่สะพานพระรามแปด สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดอีกด้วยล่ะ

1.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

วัดโพธิ์ หรือนามทางราชการว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกและเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาวัดโพธารามวัดเก่าที่เมืองบางกอกครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง และที่ใต้พระแท่นประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่านไว้ด้วย

ที่วัดโพธิ์ยังมี “พระพุทธไสยาสน์” (พระนอนวัดโพธิ์องค์ใหญ่ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ฝีมือช่างสิบหมู่ของหลวง ก่ออิฐถือปูนปิดทองทั้งองค์ ยาว 46 เมตร สูง 15 เมตร ที่ฝ่าพระบาทแต่ละข้างมีลวดลายประดับมุกเป็นภาพมงคล 108 ประการ อันเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของมหาบุรุษตามคติของอินเดีย ต่อมาได้ลงรักปิดทองใหม่ทั้งองค์, มี “พระพุทธเทวปฏิมากร” ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในนพระอุโบสถ

2.วัดอรุณราชวราราม

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า วัดอรุณ เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในกรุงเทพ ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา  นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างชื่นชอบวัดอรุณ ด้วยเป็นวัดที่มีพระปรางค์งดงาม โดดเด่นเป็นสง่า ประดับด้วยชิ้นกระเบื้องเคลือบสีต่างๆ อย่างงดงามและประณีต ในทุกๆ วัน จะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมวัดเป็นหลักพัน ส่วนใหญ่จะนั่งเรือแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่เช้า ช่วงเวลาที่สวยที่สุดในการชมวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารคือยามพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นนั่นเอง

เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ที่ชื่อวัดแจ้ง เพราะ พระเจ้าตากฯ ทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี 

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่าวัดอรุณราชวราราม

3.Asiatique The Riverfront

เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ไปสัมผัสกับสีสันแห่งประวัติศาสตร์ เสน่ห์ย่านการค้าและความอร่อยที่มีระดับจากหลากหลายร้านอาหารชื่อดัง พร้อมโชว์พิเศษต่าง ๆ ที่พร้อมสร้างความประทับใจ

แหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ อาจเพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ตอบโจทย์ บวกกับบรรยากาศและทัศนียภาพที่แปลกใหม่ สวยงาม รวมถึงตกแต่งด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมในช่วง พ.. 2450 ถึง พ.. 2490 จึงไม่แปลกที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ

ไฮไลท์ของเอเชียทีค นั่นคือ ชิงช้าสวรรค์ เอเชียทีค หรือเอเชียทีค สกาย (ASIATIQUE SKY)  ชิงช้าสวรรค์ยักษ์สูงกว่า 60 เมตร ตั้งตระหง่านรอคอยให้เหล่าคนชอบความสูง ความท้าทายได้ไปสัมผัส เพื่อขึ้นไปชื่นชมกับทัศนียภาพมุมสูงยามเย็นหรือยามค่ำคืนของคุ้งน้ำเจ้าพระยา รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

4.ล้ง 1919

ล้ง 1919 (Lhong 1919) ตั้งอยู่ที่ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน จังหวัดกรุงเทพมหานคร จากเดิมเป็นท่าเรือและโกดังเก่า สมัยรัชกาลที่ 4 นำมาปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมไทยจีน โดยมีทั้งศาลเจ้า ลานกิจกรรม ร้านจำหน่ายงานฝีมือ และร้านอาหาร   

ไฮไลต์ของล้ง 1919 คือ ศาลเจ้าหม่าโจ้ว ซึ่งอยู่บริเวณด้านในสุด ที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือในฐานะเจ้าแม่ผู้ช่วยคุ้มครองให้นักเดินทางและชาวประมงปลอดภัยในการเดินเรือ

มุมถ่ายรูปสวยๆ ชิคๆ คูลๆ เพียบ ยิ่งถ้าใส่ชุดกี่เพ้า ชุดพื้นเมืองแบบสาวจีนมาถ่ายรูปเล่นด้วย ก็ยิ่งเหมาะเลยนะ

5.วัดระฆังโฆสิตาราม

วัดระฆังในอดีตมีชื่อว่าวัดบางหว้าใหญ่โดยในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้สร้างพระราชวังขึ้นใกล้กับวัดแห่งนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดบางหว้าใหญ่ และยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง และในสมัยรัตนโกสินทร์ วัดแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช และใช้เป็นสถานที่ในการประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก ซึ่งอัญเชิญมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช

ที่มาของชื่อวัดระฆังมาจากในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ซึ่งมีการขุดพบระฆังลูกหนึ่งซึ่งมีเสียงไพเราะมาก หลังจากนั้นพระองค์ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้นำระฆังลูกนั้นไปไว้ที่วัดพระแก้ว และโปรดให้สร้างหอระฆัง พร้อมทั้งระฆังอีก 5 ลูกขึ้นทดแทน จึงกลายเป็นที่มาของวัดจนถึงในปัจจุบัน

นักท่องเที่ยวนิยมมาให้อาหารนกบริเวณท่าเรือวัดระฆัง และนอกจากนี้ ถ้ามาเที่ยวที่วัดระฆังยังสามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างวังหลังได้อีกด้วยนะ

6.วัดประยุรวงศาวาส

วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนประชาธิปก เขตธนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามเพียงแห่งเดียวที่ถือเป็นพุทธสถานประจำสมเด็จเจ้าพระยาฯสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง

ไฮไลท์สำคัญของวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร นั่นคือพระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมแบบทรงไทย พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะปางมารวิชัย นับเป็นพระพุทธรูปองค์แรกของไทยที่ช่างฝีมือปิดทองเป็นชาวต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น

พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธนาค เป็นสถาปัตยกรรมแบบทรงไทย หน้าบันสลักลวดลายดอกไม้สวยสดงดงามและปิดทองประดับกระจกแพรวพราว มีซุ้มประตู 4 ประตู บานประตูประดับมุก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย โดยในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.. 2492 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนพระวิหารและพระพุทธนาคเป็นศิลปโบราณสถานวัตถุของชาติและพระศาสนา

พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงกลมเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตั้งแต่ พ.. 2450

นอกจากนี้ ยังมีอุทยานเขามอ (เขาเต่า) เป็นภูเขาจำลองขนาดเล็ก ก่อด้วยศิลา ตั้งอยู่กลางสระน้ำบริเวณหน้าวัด มีศาลาราย 8 หน้า ตั้งอยู่ริมสระน้ำเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ บนยอดเขาเป็นที่ตั้งพระสถูปหล่อด้วยทองเหลืองลงรักปิดทองสำหรับบรรจุพระพุทธรูป

7.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร (วัดกัลยา) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศบ้านและซื้อที่ดินข้างเคียงเพิ่มเติม สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.. ๒๓๖๘แล้วน้อมเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๓พระราชทานนามว่าวัดกัลยาณมิตรและทรงสร้างพระราชทานทั้งพระวิหารหลวงและพระประธานสำหรับพระวิหารหลวงคือหลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายกโดยทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระพุทธรูปใหญ่อยู่ริมแม่น้ำแบบเดียวกันกับที่วัดพนัญเชิงกรุงเก่าหลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีนเรียกชื่อแบบจีนว่าซำปอฮุดกงหรือซำปอกงภายในพระอุโบสถซึ่งมีขนาดเล็กกว่าพระวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติที่แทรกเรื่องราวชีวิตชาวบ้านชาวเมืองสมัยรัชกาลที่๓ซึ่งนอกจากจะมีคุณค่าทางวัฒนธรรมแล้วยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สังคมอย่างยิ่งอีกด้วย

นอกจากนั้นยังมี หอมณเฑียรธรรมเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บประไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ ๔ หน้าพระวิหารหลวงยังมีหอระฆังฝีมือคนรุ่นใหม่ สำหรับไว้ระฆังยักษ์ มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทางเข้าวัดมีเจดีย์หิน ทำมาจากเมืองจีน เรียกว่า ถะ เป็นศิลปะจีนที่งดงามมาก

8.วัดพิชยญาติการาม

วัดพิชยญาติการามวรวิหาร (วัดพิชัยญาติ) ตั้งอยู่ไม่ไกลพิชัยจากสะพานพระพุทธยอดฟ้า ฝั่งธนบุรี เดิมเป็นวัดร้าง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุญนาค) หรือสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย สร้างขึ้นเมื่อ พ.. ๒๓๘๔ แล้วน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ ๓ ได้รับพระราชทานนามว่า วัดพระยาญาติการาม แต่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดพิชัยญาติ

วัดพิชัยญาติเป็นวัดที่มีบริเวณสวยงาม พระอุโบสถเป็นศิลปะแบบจีน มีขนาดไม่ใหญ่นัก ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา ด้านนอกพระอุโบสถมีเสาพาไลทำด้วยศิลากลม ที่ฐานเสาพาไลสลักเป็นเรื่องสามก๊ก สองข้างพระอุโบสถเป็นพระเจดีย์บนฐานสูงได้สัดส่วน

มีพระปรางค์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนฐานสูงดูโดดเด่นเห็นแต่ไกล พระปรางค์ใหญ่มีความสูงถึง ๒๑ วาเศษ ด้านหน้ามีลานกว้าง ทำให้พระปรางค์ดูยิ่งใหญ่ สิ่งที่น่าชื่นชมอื่นๆ ได้แก่ หมู่กุฏิสงฆ์ ซึ่งสร้างแบบตะวันตก มีลายฉลุไม้และลายปูนปั้นที่สวยงาม แต่ชำรุดผุพังเสียมากแล้ว

9.สตรีทอาร์ตย่านเจริญกรุง

หากไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนไปเดินเล่นถ่ายรูปสตรีทอาร์ตย่านเจริญกรุงก็เป็นอะไรที่น่าสนุกดีนะ

บริเวณถนนเจริญกรุง มีหลายจุดใ้ห้เราได้ไปถ่ายภาพเล่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ซอยเจริญกรุง 32 จุดนี้มีเยอะมาก เรียกว่าทั้งซอยเลยก็ว่าได้ อยู่ข้างไปรษณีย์กลางบางรัก เดินเข้าซอยมาจะเห็นงานศิลปะที่กำแพง ตลอดแนวถนนยาวไปจนถึงท่าเรือริมน้ำเจริญกรุง23 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกซอยนี้กันเยอะ

ถ้ามีเวลาลองเดินเล่นดูครับ มีหลายจุดย่านเจริญกรุง สวยๆ อาร์ตๆ ทั้งนั้นเลย

10.สะพานพระรามแปด

สะพานพระราม 8 เป็นสะพานขึงแบบอสมมาตรเสาเดี่ยว 3 ระนาบที่ยาวที่สุดในโลก กล่าวคือ ขึงด้วยเคเบิลระนาบคู่บริเวณตัวสะพาน (Main Bridge) จำนวน 28 คู่ และขึงด้วยเคเบิลระนาบเดี่ยวช่วงหลังสะพาน (Back Span) จำนวน 28 เคเบิล สะพานมีความยาวทั้งสิ้น 475 เมตร มีเสาขนาดใหญ่เพื่อรับสายเคเบิลเพียงเสาเดียวบนฝั่งธนบุรี และไม่มีตอม่อกลางน้ำที่จะกีดขวางทางไหลของน้ำและบดบังความสง่างามของอาคารราชการ และกลุ่มโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

บริเวณด้านใต้ของสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรีคือที่ตั้งของสวนหลวงพระราม 8 เป็นสวนอเนกประสงค์ รองรับคนได้จำนวนมาก และยังใช้เป็นเขื่อนเล็กๆ ช่วยป้องกันน้ำท่วม ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นที่ทำกิจกรรมสันทนาการแล้วยังใช้เป็นที่จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณีต่างๆ ด้วย

คำยอดนิยม