พระนครศรีอยุธยา-สระบุรี-ลพบุรี เที่ยวใกล้กรุง ไปเมื่อไหร่ก็ได้

วันหยุดทั้งที ถ้าไม่รู้ไปเที่ยวไหน เที่ยวภาคกลางนี่แหละ เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ได้ใจสุดๆ โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา-สระบุรี-ลพบุรี ขับรถจากกรุงเทพฯแค่เดี๋ยวเดียว ก็ได้สัมผัสถึง 2 รสชาติ ตั้งแต่ความคลาสสิคของเมืองมรดกโลกที่พระนครศรีอยุธยา ไหว้พระ ซึมซับประวัติศาสตร์ กินก๋วยเตี๋ยวเรือ โรตีสายไหม

เสร็จแล้วข้ามไปสระบุรี เที่ยวสวนเกษตร สัมผัสอากาศเย็นๆ ท่ามกลางขุนเขา ก่อนปิดท้ายที่ลพบุรี เมืองเก่าแต่บรรยากาศสบายๆ อาหารการกินก็อร่อย เห็นมั้ย! ความสุขไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย

1.วัดมหาธาตุ อยุธยา
ภาพเศียรพระพุทธรูปที่ถูกรากไม้โอบล้อมราวกับกำลังถูกกลืนกินด้วยกาลเวลา น่าจะเป็นภาพจำที่หลายคนเคยเห็น แต่จริงๆแล้วในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดมหาธาตุเป็นวัดสำคัญที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี จึงเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีสำคัญต่างๆโดยตลอดยุคสมัย ภายในวัดมีทั้งฐานขององค์พระปรางค์หลัก เจดีย์แปดเหลี่ยมหนึ่งเดียวในพระนครศรีอยุธยาที่คงสภาพสมบูรณ์ ไปจนถึงวิหารเล็กซึ่งด้านหน้ามีเศียรพระที่ถูกรากไม้โอบล้อมไว้นั่นเอง จากนั้นแนะนำให้ไปแวะ ตลาดหัวรอ ตลาดเก่าแก่กว่า 300 ปี ที่นี่มีสินค้าสารพัดชนิดจำหน่าย เดินเพลินไปตามซอกซอย ได้ฟีลย้อนยุค มีร้านอร่อยเด็ดห้ามพลาดทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เต้าหู้ทอด หมูสะเต๊ะ ขนมเบื้องโบราณ เติมพลังกันก่อนออกเกินทางไปลุยเที่ยวต่อ

ที่ตั้ง : อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น.

2.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา อยุธยา จากนั้นห้ามพลาดห้องจัดแสดงเครื่องทองโบราณ ที่ค้นพบจากกรุวัดราชบูรณะและวัดอื่นๆ ทุกชิ้นคือของจริง งดงามอลังการจนต้องตะลึง

ที่ตั้ง : อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-16:00 น.

3.ปรางค์วิว อยุธยา คาเฟ่มินิมอล ติดวิวอุทยานประวัติศาสตร์ ชมวิวพระปรางค์ไปพร้อมเบเกอรี่และเครื่องดื่ม ฟิวชั่นความเป็นไทยเข้าไปอย่างลงตัว อย่างบรรดาเมนูเครื่องดื่มที่ใช้สายไหมอยุธยาแทนน้ำตาล

.ที่ตั้ง : อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น.

4. วัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่อีกฟากฝั่งของแม่น้ำป่าสัก นอกเขตพระนครชั้นใน เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ส่วนพระเจดีย์ชัยมงคลที่โดดเด่น สร้างขึ้นภายหลังในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะจากการกระทำยุทธหัตถีเหนือมังกะยอชวา พระมหาอุปราชของหงสาวดี โดยสามารถเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงของวัดที่ล้อมรอบด้วยพระพุทธรูปเก่าแก่ รวมทั้งวิวเมืองพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังมีวิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเช่นกัน รวมทั้งพระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่มีผู้ศรัทธาแวะมาบูชาสักการะกันไม่ขาดสาย
ที่ตั้ง : อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น. ทุกวัน

5. วัดพระพุทธฉาย สระบุรี วัดบนไหล่เขาสูงที่มีความเก่าแก่ย้อนไปถึงสมัยพระเจ้าทรงธรรมแห่งกรุงศรีอยุธยา ตำนานเล่าว่าในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่เขาฆาฏกะ หรือเขาพระพุทธฉาย เพื่อโปรดนายพรานฆาฏกะ จนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ จากนั้นทรงแสดงพุทธปาฏิหาริย์ให้เงาของพระองค์ติดอยู่ในเนื้อหิน ตามคำขอของพระฆาฏกะ จนสมัยพระเจ้าทรงธรรมจึงมีการค้นพบรอยพระพุุทธฉายบนเขาแห่งนี้ ส่วนบนยอดเขายังพบรอยพระพุทธบาทด้วย และนอกจากเขาลูกนี้จะเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สวยมาก ด้วยเอกลักษณ์ของบันไดขึ้นเขากว่า 270 ขั้น ช่วงออกพรรษาที่นี่จึงมีการจัดประเพณีตักบาตรเทโวด้วยข้าวต้มลูกโยนเป็นประจำทุกปีด้วย
ที่ตั้ง : ต.หนองปลาไหล อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30-16:30 น. ทุกวัน

6. มัลเบอร์รี่ ฟาร์มสายทอง สระบุรี เที่ยวจ.สระบุรีทั้งทีต้องมีแวะสวนเกษตรถึงจะได้อรรถรสเมืองคาวบอย โดยที่ฟาร์มสายทองของป้าน้อย สายสุนีย์ แกได้แบ่งพื้นที่ไว้ 5 ไร่ เพื่อปลูกมัลเบอร์รี่โดยเฉพาะ ซึ่งมีผลผลิตให้เก็บมาแปรรูปและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเด็ดชิมสดๆ ได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว โดยทางฟาร์มก็นำเอามัลเบอร์รี่มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแยม ที่จะกินกับแครกเกอร์หรือทาขนมปังก็อร่อย ไม่หวานเกินไป น้ำมัลเบอร์รี่ ที่ยิ่งดื่มเย็นๆ ก็ยิ่งชื่นใจ หรือจะไปชมแปลงต้นมัลเบอร์รี่ เดินเล่นใต้เงาไม้ ถ่ายรูป เด็ดมาชิมจากต้น ป้าน้อยก็ไม่หวงห้าม แถมนอกจากอร่อยแล้ว ยังได้ประโยชน์มากมายอีกด้วย ไม่เชื่อก็ดูจากป้าน้อยในวัย 70 กว่า ที่ยังแข็งแรงราวกับสาวๆอยู่เลย

ที่ตั้ง : ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
โทร. : 089 045 1558

7. สวนผักครูสรรเสริญ บุกชิมผักสดๆ กันถึงสวนเนื้อที่กว่า 47 ไร่ โดยที่นี่เป็นแหล่งปลูกผักสลัดแบบปลอดสารพิษ มีหลากหลายชนิดทั้ง กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส เบบี้แครอท ต้นอ่อนทานตะวัน ฯลฯ สามารถแวะมาเที่ยวชมแปลงผักยาวๆสุดสายตา เก็บผักสดๆจากแปลง รวมทั้งมีเวิร์คช็อปให้ลองทำสลัดโรลจากผักสด จิ้มน้ำสลัดโฮมเมดที่ทางสวนทำเอง มีทั้งสูตรทาวซันไอส์แลนด์ ซีซาร์สลัด สลัดครีม บอกเลยว่าผักสดๆ ที่เพิ่งเก็บจากแปลงทั้งหวานทั้งกรอบ โดนใจคนชอบกินผักแน่นอน แถมใครติดใจก็ยังสามารถซื้อติดมือกลับบ้านไปฟินต่อได้ด้วย
ที่ตั้ง : ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
โทร. : 081 828 3917

8. สวนดอกเบญจมาศบิ๊กเต้ (BigTea Garden) สระบุรี สวนเบญจมาศหลากสีเป็นทั้งอาชีพหลักของเกษตรกรแถบสระบุรี และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบถ่ายรูปกับสวนดอกไม้ด้วย ที่นี่กว้างขวางนับร้อยไร่ มีแปลงดอกเบญจมาศเบ่งบานอวดสีสันทั้งดอกเล็ก ใหญ่ สีเหลือง ม่วง ขาว ชมพู ฯลฯ หมุนเวียนทั้งบริเวณ ให้มาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีแบบไม่ต้องรอฤดูกาล เรียกว่าถูกใจสายพอร์เทรตและมาโครแน่นอน นอกจากนี้ทางสวนยังมีคาเฟ่ให้สั่งเครื่องดื่มและเบเกอรี่มานั่งกินเล่นพลางชมวิวขุนเขา รวมทั้งมีพืชผลทางการเกษตรต่างๆ รวมทั้งดอกเบญจมาศตัดสดมาวางจำหน่ายด้วย

ที่ตั้ง : ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
เปิด-ปิดเวลา : 08.00 – 17.30 น. ทุกวัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/WgZcGM4Kp4B2jefV6
โทร. 08-1878-4569

9. Cafe Laura bar & restaurant สระบุรี หายตัวปิ๊ง! มาชิลในสวนสไตล์ยุโรป ที่คาเฟ่และร้านอาหารแสนเก๋ใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี บอกเลยว่าสายถ่ายรูป กาแฟ และอาหารอร่อย ต้องโดนใจแน่นอน ร้านนี้ตกแต่งแบบโรงนาตะวันตก เสริมความเท่ด้วยโครงเหล็กและกำแพงอิฐ ตัวร้านมีสองชั้น โอเพ่นแอร์รับลมเย็นๆ มีทั้งกาแฟพรีเมี่ยมและเครื่องดื่มหลากหลาย ส่วนจานหลักมีเมนูแนะนำ เช่น สลัดไก่ซีซาร์ ปลาทับทิมทอดน้ำปลา ยำหมูคะน้า ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น หมูแดดเดียว พิซซ่าไส้กรอกเบคอน ฯลฯ ที่สำคัญมุมถ่ายรูปเยอะมาก ทั้งในสวน ในร้าน เบาะตาข่ายชมวิวทุ่งหญ้าแซมป่าเตี้ยๆ เล็งมุมไหนก็สวย

ที่ตั้ง : ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
เปิด-ปิดเวลา : 10.00 – 21.00 น. ทุกวัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/3Wwpx5wCgivCox9XA
โทร. 0-3667-0496

10. “พระปรางค์สามยอด” ลพบุรี ที่นี่คือแลนด์มาร์คของจังหวัดลพบุรีแบบไม่ต้องสงสัย ถ้ามาเที่ยวลพบุรี ยังไงก็ต้องแวะมาที่นี่ โครงสร้างเป็นศิลาแลงประดับปูนปั้น เป็นศิลปะแบบขอม สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (ครองราชย์ พ.ศ. 1724 – ประมาณ 1757) เพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิวัชรยานประจำเมืองละโว้หรือลพบุรี ผ่านการเวลามายาวนานกว่า 800 ปี ที่นี่มีลิงเจ้าถิ่นอยู่เยอะมาก ใครแวะมาถ่ายรูปหรือเที่ยวชม ก็ระมัดระวังสิ่งของให้ดี ไม่งั้นอาจโดนลิงแย่งเอาไป แล้วจะเอาคืนได้ยากที่ตั้ง : ตำบลท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
พิกัด : 14.803035, 100.613993

11. ศาลพระกาฬ ลพบุรี จากพระปรางค์สามยอด ข้ามถนนมานิดเดียว ก็จะถึง “ศาลพระกาฬ” เทวสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ ที่นี่เป็นเทวสถานขอมเก่าแก่ที่สร้างด้วยศิลาแลงเรียงซ้อนกันเป็นฐานสูง ผู้คนจึงนิยมเรียกว่า “ศาลสูง” ภายในศาลเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าพ่อพระกาฬ สันนิษฐานว่าเป็นเทวรูปพระนารายณ์ยืน ทำด้วยศิลา มี 2 องค์ คือ องค์เล็กเป็นแบบเทวรูปเก่าในประเทศไทยและองค์ใหญ่เป็นประติมากรรมแบบลพบุรี เดิมองค์เจ้าพ่อพระกาฬนั้นมีสีดำสนิท แต่ปัจจุบันกลายเป็นสีทองอร่ามจากการปิดทองของชาวบ้านผู้ศรัทธา ที่นี่ก็มีลิงไม่น้อยไปกว่าฝั่งศาลพระปรางค์สามยอดเลยครับ ระมัดระวังสิ่งของให้ดีเช่นกัน
ที่ตั้ง : ตำบลท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
พิกัด : 14.803035, 100.613993

12.พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ ลพบุรี พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โปรดให้สร้างขึ้น ณ เมืองลพบุรี เพื่อจะยกให้เมืองลพบุรี ขึ้นเป็นเมืองหลวงอีกแห่งหนึ่ง สมเด็จพระนารายณ์ทรงโปรดประทับ ณ เมืองลพบุรีเกือบตลอดปี เฉพาะฤดูฝนเท่านั้น จึงเสด็จไปประทับอยู่ ณ กรุงศรีอยุธยา เมืองลพบุรีจึงเป็นศูนย์กลางความเจริญตลอดรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นศิลปะแบบไทยผสมตะวันตก สวยงาม และมีเสน่ห์แตกต่างจากพระราชวังโบราณทั่วๆไป แล้วเมื่อช่วงที่ผ่านมา ยิ่งมีกระแสออเจ้า ของละครดัง “บุพเพสันนิวาส” เข้ามาช่วยปลุกกระแสให้ลพบุรี ตื่นขึ้นมาจากความเงียบงัน เชื่อมั้ยว่าตอนนี้ยังมีคนใส่ชุดไทยไปตามรอยออเจ้าที่พระราชวังนารายณ์กันอยู่เลย ฮิตขนาดไหนลองคิดดู

ที่ตั้ง : ถ.สรศักดิ์ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
โทรศัพท์ : 036 411 458

คำยอดนิยม